søndag 27. mars 2016

เมื่อตายไปแล้วจะไปที่ไหน ความตายเป็นอย่างไร ความตายก็คือความขาดแห่งชีวิตินทรีย์ ขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่นี้ มีบุญคอยหล่อเลี้ยงรูปกายเราให้สดใสไปมาเคลื่อนไหวได้ เมื่อใดหมดบุญขาดชีวิตินทรีย์ เราก็เคลื่อนไหวไปมาไม่ได้ หมดความรู้สึก มีกายแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้ ถ้าจะเปรียบก็เหมือนไฟตะเกียง อาศัยน้ำมันชุบที่ไส้จึงมีแสงสว่าง ถ้าน้ำมันหมดไฟก็ดับลง รูปกายของเรานี้เหมือนกับตะเกียง ชีวิตินทรีย์เหมือนน้ำมัน

     เพราะฉะนั้น เมื่อหมดบุญ ชีวิตินทรีย์ขาดก็สิ้นลมหายใจ ครั้นหมดลมวิญญาณก็ดับ ตาก็ไม่เห็น หูก็ไม่ได้ยิน จมูกก็ไม่ได้กลิ่น ลิ้นก็ไม่รู้รส กายก็หมดความรู้สึกเหมือนท่อนฟืนที่รอการเคลื่อนเข้าเตาไฟ ไม่หวั่นไหวต่อความเย็นร้อนอ่อนแข็ง ถ้าทิ้งไว้ก็มีแต่จะเน่าเหม็นพุพอง น่าเกลียด น่าชัง คนที่เคยคลั่งไคล้หลงใหลกันมาก่อน ก็ไม่อยากเข้าใกล้ ถึงขั้นนี้แล้วก็ไม่น่าทะนุถนอม จำต้องเอาไปเผาในป่าช้า.  ธรรมคุณครูไม่ใหญ่

ก็วันหยุด อ่ะนะ ทำบุญบ้าง ไร บ้าง.

นั่ง สมาธิ ดูบ้าง จะเป็น ไร  ไป !!!!!!

mandag 21. mars 2016

søndag 20. mars 2016

กระทู้ธรรม ธรรมศึกษาตรี

               อปปมตตา น มียนติ
               ผู้ไม่ประมาทย่อมไม่ตาย
     บัดนี้ ได้อธิบายขยายเนื้อความแห่งสุภาษิตที่ได้ลิขิตไว้ ณ เบื้องต้น พอเป็นแนวทางการศึกษาและนำไปปฏิบัติสืบต่อไป
     อธิบายความว่า บุคคลที่ไม่ประมาทคือบุคคลที่มีสติอยู่ทุกเมื่อ ก่อนที่จะ พูด คิด ก็ต้องมีสติอยู่ทุกขณะจิตเพราะถ้าหากเราเผลอสติ อาจไปพูดผิด ทำผิด หรือคิดผิด ย่อมทำให้เกิดความเสียหายตามมา เช่น บุคคลที่ประมาทในเวลา คิดว่าเดี๋ยวจะนั่งสมาธิ มัวแต่เดี๋ยวๆ จนเวลาล่วงเลยผ่านไป วันแล้ววันเล่าจนสังขารร่วงโรย พอตั้งใจจะปฏิบัติจริง ร่างกายก็ไม่ไหวแล้ว ความไม่ประมาทบัณฑิต ย่อมไม่สรรเสริญ ดั่งพุทธศาสนสุภาษิตที่มาใน อังคุตรนิกาย ปัญจกนิปาต ว่า
                     อัปมาทัง ปสัสสันติ
               บัณฑิตย่อมสรรเสริญความไม่ประมาท
  บุคคลที่ไม่ประมาท ท่านกล่าวว่า จะทำอะไร พูดอะไร จะคิดอะไร ย่อมเกิดผลดีตามมา รู้เท่าทันกาลเวลา ทำอไรก็ไม่สายเกินวัย เพราะวัยอันควรที่จะสร้างบุญบารมีให้แข็งแกร่งนั้นควรเริ่มต้นตั้งแต่วัยเด็กเป็นต้นไป การสั่งสมบุญบารมีนั้มย่อมทำได้ดีกว่าวัยสูงอายุ อย่างแน่นอน 
          สรุปความว่า ผู้ไม่ประมาท คือผู้มีสติอยู่ทุกเมื่อ ทำอะไรก๊ไม่สายเกินกาล สามารถสั่งสมความดีได้ตลอดชิวิต ไม่เกิดความผิดพลาด ต่อตนเอง และผู้อืนอยุ่ตลอดไป สมดั่งพุทธศาสนาสุภาษิตที่ยกขึ้นเป็นนิกเขปบทเบื้ยงต้นว่า
                           อัปปมัตตา น มียนติ
                            ผู้ไม่ประมาย่อยไม่ตาย
มีนัยดังพรรณนามาด้วยประการฉะนี้
 
           
 

lørdag 19. mars 2016

fredag 18. mars 2016